วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
MacBook Air รุ่นใหม่ มากับแบตเตอรี่ ที่นานขึ้น
เป็นที่ทราบกัแแน่ชัดแล้วว่า แอปเปิ้ล (Apple) ได้หยุดการติดตั้ง Adobe Flash ไปพร้อมกับเครือง Mac รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์ Flash เวอร์ชันล่าสุด และอัพเดตความปลอดภัยได้เอง แต่บางทีเหตุผลของการไม่ติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวเข้าไป เพื่อให้สามารถใช้แบตฯได้นานขึ้นอาจจะฟังดูมีน้ำหนักมากกว่า
รายงานจากเว็บไซต์ Ars Technica โดย Chris Foresman ได้ทดลองใช้ MacBook Air รุ่นใหม่ ซึ่งปรากฎว่า สามารถท่องเน็ตด้วยบราวเซอร์ Safari ต่อเนื่องได้นานถึง 6 ชั่วโมงเต็ม แต่หลังจากที่ติดตั้ง Adobe Flash เพื่อใช้งานโดยเข้าไปยังเว็บไซต์เดียวกันกับการทดลองครั้งแรก ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ระยะเวลาใช้งานลดลงเหลือแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น (ไม่ติดตั้ง Flash ใช้ได้นานกว่าถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว)
“โฆษณาที่ใช้ Flash จะทำให้ CPU ต้องทำงานตลอดเวลาโดยไม่จำเป็น” Foresman โพสต์ไว้ในเว็บไซต์ การไม่ติดตั้งปลั๊กอิน Flash เข้าไป เว็บไซต์จะแสดงโฆษณานิ่งๆ แทนที่คอนเท็นต์ที่เป็น Flash ซึ่งลดความจำเป็นในการใช้พลังประมวลผลอย่างต่อเนื่องโดยกลไกการสร้างภาพ เคลื่อนไหวของปลั๊กอิน Flash โดยจากผลการทดสอบ โฆษณาที่ใช้ Flash จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ของ MacBook Air มากถึง 33% มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ Apple แสดงเจตจำนงที่ชัดเจนว่าจะไม่ติดตั้ง Flash เข้าไปใน iPad, iPod Touch และ iPhone ซึ่งมีแบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่า
นอกจาก Apple แล้ว Microsoft เองก็หยุดการติดตั้ง Adobe Flash ไปพร้อมกับโอเอสตั้งแต่ Windows Vista ในปี 2007 แม้จะเข้าใจได้ไม่ยากถึงเหตุผลที่ทำเช่นนั้น เนื่องจากทางบริษัทก็มีปลั๊กอิน Silverlight ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งกันโดยตรง อย่างไรก็ตาม Windows จะมาพร้อมกับ Flash ที่อยู่ในรูปของ ActiveX Control ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้สามารถคลิกบนตำแหน่งที่แสดง Flash บนหน้าเว็บ เพื่อให้ปลั๊กอิน Flash ติดตั้งตัวมันเองเข้าไปได้ เรียกว่า เพิ่มความลำบากให้กับผู้ใช้นิดหนึ่ง ในขณะที่ผู้ใช้ MacBook Air ที่ต้องการใช้ Flash จะต้องดาวน์โหลด และติดตั้ง Flash จาก Adobe ซึ่งเป็นภาระให้กับผู้ใช้มากกว่า